|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
20,0047,001,๒. เป็นผู้มีหิริ คือละอายกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ละอาย
|
|
20,0047,002,ต่อการถึงพร้อมแห่งอกุศลธรรมอันลามก.
|
|
20,0047,003,๓. เป็นผู้มีโอตตัปปะ คือสะดุ้งกลัวต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโน-
|
|
20,0047,004,ทุจริต สะดุ้งกลัวต่อการถึงพร้อมแห่งอกุศลธรรมอันลามก.
|
|
20,0047,005,๔. เป็นพหูสูต ทรงธรรมที่ได้สดับแล้ว สั่งสมธรรมที่ได้สดับแล้ว
|
|
20,0047,006,ธรรมเหล่าใดงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหม-
|
|
20,0047,007,จรรย์พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง ธรรม
|
|
20,0047,008,ทั้งหลายเห็นปานนั้น อันท่านได้สดับมามาก ทรงจำไว้ได้ สั่งสมด้วยวาจา
|
|
20,0047,009,ตามเพ่งด้วยใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยความเห็น.
|
|
20,0047,010,๕. เป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อถึงพร้อมแห่ง
|
|
20,0047,011,อกุศลธรรม มีความเข้มแข็ง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในอกุศลธรรม
|
|
20,0047,012,ทั้งหลาย.
|
|
20,0047,013,๖. เป็นผู้มีสติ คือประกอบด้วยสติและปัญญาเครื่องรักษาตนอย่างยิ่ง
|
|
20,0047,014,ระลึกได้ ตามระลึกได้ แม้ซึ่งกิจการที่ทำไว้แล้วนาน แม้ซึ่งถ้อยคำที่พูดไว้แล้ว
|
|
20,0047,015,นาน.
|
|
20,0047,016,๗. เป็นผู้มีปัญญา คือประกอบด้วยปัญญา อันเห็นความเกิดและ
|
|
20,0047,017,ความดับ อันเป็นอริยะ ชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ดูก่อนมหา
|
|
20,0047,018,นาม อย่างนี้แล อริยสาวกชื่อว่าเป็นผู้ประกอบด้วยสัปปุริสธรรม ๗ ประการ.
|
|
20,0047,019,[๓๒] ดูก่อนมหานาม อย่างไร อริยสาวกจึงจะชื่อว่าเป็นผู้ได้ฌาน
|
|
20,0047,020,ทั้ง ๔ อันเป็นธรรมอาศัยซึ่งจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม ตาม
|
|
20,0047,021,ความปรารถนา เป็นผู้ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก อริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้
|
|
20,0047,022,สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติ
|
|
|