Book,Page,LineNumber,Text 20,0020,001,ในอัจฉริยะทั้งสองนั้น พระพุทธดำรัสว่า ดูก่อนโมคคัลลานะ น่าอัศ- 20,0020,002,จรรย์ ดูก่อนโมคคัลลานะ ไม่เคยมี โมฆบุรุษนั้นจักมาหา ก็ต่อเมื่อจับแขนมา 20,0020,003,นี้ชื่อว่า ครหอัจฉริยะ. พระพุทธดำรัสว่า ดูก่อนนันทมารดา น่าอัศจรรย์ 20,0020,004,ดูก่อนนันทมารดา ไม่เคยมี แม้จิตตุปบาท ก็ชำระให้บริสุทธิ์ได้ นี้ชื่อว่า ปสัง- 20,0020,005,สาอัจฉริยะ. ในที่นี้ท่านประสงค์เอาปสังสาอัจฉริยะ นี้แหละ. เพราะปริ- 20,0020,006,พาชกนี้เมื่อสรรเสริญจึงกล่าวอย่างนี้. บทว่า อิทํ ในบทว่า ยาวญฺจิทํ นี้ เป็น 20,0020,007,เพียงนิบาต. บทว่า ยาว กำหนดประมาณคือ ทรงให้ภิกษุสงฆ์ปฏิบัติชอบเป็น 20,0020,008,อย่างยิ่ง. ท่านอธิบายว่า ไม่สามารถจะพรรณนาถึงประมาณที่ให้ภิกษุสงฆ์ปฏิบัติ 20,0020,009,ชอบ นี้จึงน่าอัศจรรย์ นี้จึงไม่เคยมี โดยแท้แล. 20,0020,010,บทว่า เอตปรมํเยว ชื่อว่า เอตปรโม เพราะให้ภิกษุสงฆ์นั้น 20,0020,011,ปฏิบัติชอบอย่างนั้น เป็นอย่างยิ่งของภิกษุแม้นั้น. ชื่อว่า ปฏิบัติชอบเป็น 20,0020,012,อย่างยิ่งเพียงเท่านี้ อธิบายว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายเคยให้ภิกษุสงฆ์ปฏิบัติ 20,0020,013,ฉันใด ก็ทำให้ภิกษุสงฆ์นี้ปฏิบัติเหมือนกันฉันนั้นไม่ยิ่งไปกว่านี้. ในนัยที่ ๒ พึง 20,0020,014,ประกอบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจักให้ภิกษุสงฆ์ปฏิบัติอย่างนี้ไม่ให้ยิ่งไปกว่านี้. 20,0020,015,ในบทเหล่านั้นบทว่า ปฏิปาทิโต ให้ภิกษุสงฆ์ปฏิบัติคือให้ประกอบ 20,0020,016,ในข้อปฏิบัติอันไม่เป็นข้าศึกโดยชอบ เพราะทำอภิสมาจาริกวัตรให้เป็นเบื้อง- 20,0020,017,ต้น. ถามว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุไร ปริพาชกนี้จึงอ้างถึงพระพุทธเจ้า 20,0020,018,ทั้งหลายในอดีตและอนาคตเล่า. ปริพาชกนั้นมีญาณกำหนดรู้กาลทั้ง ๓ หรือ. 20,0020,019,ตอบว่า ไม่มีแม้ในการถือเอานัย. 20,0020,020,บทว่า นิปกา มีปัญญาเฉลียวฉลาด คือ ภิกษุทั้งหลายมีปัญญาประ- 20,0020,021,กอบด้วยความเฉลียวฉลาด มีปัญญา เลี้ยงชีพด้วยปัญญา สำเร็จการเลี้ยงชีวิต 20,0020,022,เพราะตั้งอยู่ในปัญญา เหมือนอย่างภิกษุบางรูป แม้บวชในศาสนา เที่ยวไปใน